ผลการสำรวจโพลประจำสัปดาห์
-
1
-
2
-
3
-
4
-
5
แม่น้ำ 5 สาย
วันที่อัพเดทล่าสุด : 26.03.2566
![](https://nidapoll.nida.ac.th/data/survey/uploads/FILE-1605669572528.png)
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “แม่น้ำ 5 สาย” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 22 – 23 มกราคม 2558 จากประชาชนทั่วประเทศ กระจายทั่วทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,250 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการทำงานของแม่น้ำทั้ง 5 สาย อันประกอบไปด้วย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รัฐบาล สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ อาศัยการสุ่มตัวอย่างจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” ด้วยความน่าจะเป็นด้วยวิธีแบบเป็นระบบ (Systematic Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ ร้อยละ 95.0 และมีค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน (Standard Error: S.E.) ไม่เกิน 1.4
จากผลการสำรวจ เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อความสามารถในการทำงานประสานสอดคล้องกันของแม่น้ำทั้ง 5 สาย อันประกอบไปด้วย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รัฐบาล สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 42.64 ระบุว่า แม่น้ำทั้ง 5 สาย สามารถทำงานประสานสอดคล้องกันได้ดี รองลงมา ร้อยละ 30.80 ระบุว่า แม่น้ำทั้ง 5 สาย ค่อนข้างสามารถทำงานประสานสอดคล้องกัน ร้อยละ 12.16 ระบุว่า แม่น้ำทั้ง 5 สาย ไม่ค่อยสามารถทำงานประสานสอดคล้องกัน ร้อยละ 11.68 ระบุว่า แม่น้ำทั้ง 5 สาย ไม่สามารถทำงานประสานสอดคล้องกันได้เลย และร้อยละ 2.72 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ ซึ่งในจำนวนผู้ที่ระบุว่าแม่น้ำทั้ง 5 สาย ค่อนข้าง – สามารถทำงานประสานสอดคล้องกันได้ดี ให้เหตุผลเพราะว่า ทุกฝ่ายต่างต้องการเห็นการพัฒนาของประเทศไปในทิศทางเดียวกันอยู่แล้ว แต่ละฝ่ายถูกแต่งตั้งและอยู่ภายใต้การบริหารการทำงานของรัฐบาล ซึ่งเป็นที่รู้จักมักคุ้นในแวดวงการเมืองกันอยู่แล้ว จึงน่าจะสามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี ส่วนผู้ที่ระบุว่าแม่น้ำทั้ง 5 สาย ไม่ค่อย – ไม่สามารถทำงานประสานสอดคล้องกันได้เลย ให้เหตุผลเพราะว่า แต่ละฝ่ายมีรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกันอยู่แล้ว ประกอบกับมีคนเป็นจำนวนมาก ต่างฝ่ายต่างย่อมมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน และอาจมีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ท้ายที่สุด เมื่อถามถึง ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อกรณีที่รัฐบาลไม่สนใจมติสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เรื่องการไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 และจากกรณีที่กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญไม่ใส่ใจในข้อเสนอการปฏิรูปโครงสร้างการเมืองของ สปช. พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 46.40 ระบุว่า เป็นเรื่องปกติของสังคมประชาธิปไตยที่ต้องมีความคิดเห็นต่าง รองลงมา ร้อยละ 18.96 ระบุว่า เป็นสิทธิของรัฐบาลและกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่ต้องทำตาม สปช. ร้อยละ 15.36 ระบุว่า ข้อเสนอของ สปช. ไม่สอคล้องกับนโยบายรัฐบาลและความคิดเห็นของกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ร้อยละ 12.56 ระบุว่า รัฐบาลมีธงอยู่แล้วในเรื่องของสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ร้อยละ 5.12 ระบุว่า สปช. ถูกมองว่าเป็นเพียงแค่สภากระดาษ ที่มีหน้าที่แสดงความคิดเห็นเท่านั้นแต่ไม่มีอำนาจอะไร ร้อยละ 4.64 ระบุว่า กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญมีธงอยู่แล้วในเรื่องการปฏิรูปโครงสร้างการเมือง ร้อยละ 3.44 ระบุว่า รัฐบาลและกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญไม่เคารพและไม่ให้เกียรติ สปช. ร้อยละ 2.48 ระบุว่า มีความเป็นไปได้ว่า สปช. อาจแก้เผ็ดด้วยการลงมติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญในอนาคต ร้อยละ 2.16 ระบุว่า อื่น ๆ เป็นเรื่องของผลประโยชน์ ทุกฝ่ายควรร่วมมือและพูดคุยตกลงกัน โดยเฉพาะรัฐบาล ควรรับฟังข้อเสนอจากทุกฝ่าย และร้อยละ 15.36 ไม่ระบุ ไม่แน่ใจ
ผลการสำรวจโพลประจำสัปดาห์
-
1
-
2
-
3
-
4
-
5