ผลการสำรวจโพลประจำสัปดาห์
-
1
-
2
-
3
-
4
-
5
ใครรู้บ้างว่า วันมาฆบูชามีความสำคัญอย่างไร
วันที่อัพเดทล่าสุด : 26.03.2566
![](https://nidapoll.nida.ac.th/data/survey/uploads/FILE-1605604492451.png)
เนื่องในวันมาฆบูชา ของปีนี้ ตรงกับวันพุธที่ 4 มีนาคม 2558 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “ใครรู้บ้างว่า วันมาฆบูชามีความสำคัญอย่างไร” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 23 – 24 กุมภาพันธ์ 2558 กรณีศึกษาจากประชาชนชาวพุทธ ทั่วประเทศ กระจายทั่วทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,252 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการรับรู้ถึงความสำคัญทางพระพุทธศาสนาของวันมาฆบูชา และการห่างไกลศาสนาของชาวพุทธ อาศัยการสุ่มตัวอย่างจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” ด้วยความน่าจะเป็นด้วยวิธีแบบเป็นระบบ (Systematic Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ ร้อยละ 95.0 และมีค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน (Standard Error: S.E.) ไม่เกิน 1.4
จากผลการสำรวจ เมื่อถามถึงการรับรู้ของประชาชนถึงความสำคัญหรือเหตุการณ์สำคัญทางพระพุทธศาสนา ในวัน “วันมาฆบูชา” พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 65.34 ระบุว่า ไม่ทราบ ถึงเหตุการณ์สำคัญทางพระพุทธศาสนา ในวัน “วันมาฆบูชา” ขณะที่ ร้อยละ 34.66 ระบุว่า ทราบ (สามารถระบุได้ถูต้อง ว่า เป็นวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 และมีพระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย เพื่อสักการะพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ ผู้ได้อภิญญา 6 และเป็นพระสงฆ์ที่ได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้า (เอหิภิกขุอุปสัมปทา)
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับผลสำรวจใน ปี 2556 พบว่า มีสัดส่วนของผู้ที่ไม่ทราบความสำคัญหรือเหตุการณ์สำคัญทางพระพุทธศาสนา ในวัน “วันมาฆบูชา” ลดลง หรือ กล่าวได้ว่า มีสัดส่วนของผู้ที่ ทราบ เพิ่มขึ้น เล็กน้อย หรือหากมองอีกนัยหนึ่งคือผลการสำรวจทั้ง 2 ครั้งแทบไม่แตกต่างกันเลย จึงแสดงให้เห็นว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติไม่ได้มีการดำเนินการอย่างจริงจังในเรื่องการประชาสัมพันธ์ถึงความสำคัญของ“วันมาฆบูชา”
ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อคำกล่าวที่ว่า “ทุกวันนี้ชาวไทยพุทธห่างไกลศาสนา” พบว่า ประชาชน ร้อยละ 48.80 ระบุว่า เห็นด้วยอย่างมาก ร้อยละ 27.64 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 9.50 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย ร้อยละ 12.78 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย และร้อยละ 1.28 ไม่แน่ใจ / ไม่ระบุ ซึ่งในจำนวนผู้ที่ระบุว่าค่อนข้างเห็นด้วย – เห็นด้วยอย่างมากให้เหตุผลว่า เด็กและผู้คนสมัยนี้ไม่ค่อยเข้าวัด ส่วนใหญ่มีแต่ผู้สูงอายุที่เข้าวัด และพฤติกรรมของพระสงฆ์ไม่น่าเลื่อมใสศรัทธา ไม่น่าเคารพนับถือ และระบบการศึกษาที่ขาดการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมและการรณรงค์ในเรื่องหลักของพระพุทธศาสนา เน้นความเจริญทางด้านวัถตุนิยมและเทคโนโลยีมากกว่าตามสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป ขณะที่ผู้ที่ระบุว่าไม่ค่อยเห็นด้วย – ไม่เห็นด้วยเลยให้เหตุผลว่า ประชาชนยังมีความเลื่อมใสและศรัทธาในพระพุทธศาสนาอยู่ ยังคงเห็นผู้คนหมั่นเข้าวัดฟังธรรม ทำบุญ กันอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสังคมต่างจังหวัด
ผลการสำรวจโพลประจำสัปดาห์
-
1
-
2
-
3
-
4
-
5