ผลสำรวจของนิด้าโพล

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “นายกฯ กับสื่อมวลชน” ทำการสำรวจระหว่างวันที่  2 – 3 เมษายน 2558 จากประชาชนทั่วประเทศ กระจายทั่วทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,250 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการปะทะคารมระหว่างนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา กับผู้สื่อข่าว และการออกอากาศรายการคืนความสุขให้คนในชาติ อาศัยการสุ่มตัวอย่างจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” ด้วยความน่าจะเป็นด้วยวิธีแบบเป็นระบบ (Systematic Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่  ร้อยละ 95.0 และมีค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน (Standard Error: S.E.) ไม่เกิน 1.4

จากผลการสำรวจ เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการปะทะคารมระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับผู้สื่อข่าว ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 39.68 ระบุว่า นายกรัฐมนตรีเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมาเกินไปทำให้เกิดวลีหรือสำนวนที่ไม่รื่นหู รองลงมา ร้อยละ 29.28 ระบุว่า นักข่าวชอบมีคำถามชวนโมโห ร้อยละ 26.08 ระบุว่า นายกรัฐมนตรีเป็นคนพูดจาโผงผางเสียงดังเกินไปทำให้ดูเหมือนชวนทะเลาะ ร้อยละ 17.84 ระบุว่า นายกรัฐมนตรีโมโหง่ายไปหน่อย ร้อยละ 14.24 ระบุว่า เป็นสีสันของข่าว ร้อยละ 6.72 ระบุว่า สื่อมวลชนใช้สิทธิเสรีภาพมากเกินไป ร้อยละ 6.16 ระบุว่า สื่อมวลชนมีสิทธิเสรีภาพในการทำข่าว ร้อยละ 5.12 ระบุว่า นักข่าวไม่เคยชินกับคำให้สัมภาษณ์ที่โผงผางเสียงดัง ร้อยละ 3.20 ระบุว่า นักข่าวขาดความอดทนในการรับฟังวลีหรือสำนวนที่ไม่รื่นหู ร้อยละ 1.84 ระบุว่า นักข่าวไม่สนใจทำตามระเบียบการแถลงข่าวของนายกฯ ร้อยละ 1.68 ระบุว่า ทีมงานโฆษกประจำสำนักนายกฯไม่จัดระเบียบการแถลงข่าวของนายกฯ อย่างเป็นระบบ ร้อยละ 1.12 ระบุว่า อื่น ๆ เช่น เป็นบุคลิกเฉพาะของนายกฯ ที่เป็นความดุดันของทหาร บางครั้งนายกฯ ก็ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน ทั้งนายกฯ และนักข่าว ต่างก็ต้องทำหน้าที่ของตนเอง และร้อยละ 6.48 ไม่ระบุ/เฉย ๆ

ด้านความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ที่ออกอากาศทุกคืนวันศุกร์ (จัดรายการโดยนายกรัฐมนตรี) พบว่า ประชาชน  ร้อยละ 31.20 ระบุว่า ระบุว่า ชื่นชอบรายการคืนความสุขให้คนในชาติมาก  ร้อยละ 33.52 ระบุว่า ค่อนข้างชอบ ร้อยละ 18.24 ระบุว่า ไม่ค่อยชอบ ร้อยละ 11.44 ระบุว่า ไม่ชอบเลย และ ร้อยละ 5.60 ไม่ระบุ/เฉย ๆ โดยในจำนวนผู้ที่ระบุว่า ค่อนข้างชอบ – ชอบมาก ให้เหตุผลว่า ประชาชนจะได้ทราบถึงการทำงานของรัฐบาล ว่าได้แก้ปัญหา หรือทำอะไรไปบ้างแล้ว และทราบถึงสถานการณ์ทั่วไปของบ้านเมือง ขณะผู้ที่ระบุว่า ไม่ค่อยชอบ – ไม่ชอบเลย ให้เหตุผลว่า ใช้ระยะเวลาในการพูดมากเกินไป อีกทั้งยังเป็นการพูดเรื่องเดิม ๆ ซึ่งบางเรื่องเป็นไปได้ยากในการดำเนินการ และเป็นการพูดในช่วงการพักผ่อนหรือการดูละคร / รายการบันเทิงทางโทรทัศน์ของประชาชน ทำให้เสียอรรถรสในการรับชม

ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อทางการปรับเปลี่ยนรูปแบบ รายการคืนความสุขให้คนในชาติ โดยนายกรัฐมนตรีจะแนะหัวข้อก่อนและให้รัฐมนตรีหมุนเวียนมาออกอากาศชี้แจงการทำงาน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 63.92 ระบุว่า  เห็นด้วย เพราะ ควรเปิดโอกาสให้คนอื่น ได้ออกมาแถลงผลงาน ประชาชนจะได้เปิดรับทัศนคติจากหลากหลายมุมมองให้กว้างขึ้น ซึ่งรัฐมนตรีเป็นผู้ที่ทำงานโดยตรง น่าจะให้ข้อมูลการทำงาน การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ดีกว่า อีกทั้งเป็นการแบ่งเบาภารกิจของนายกฯ อีกด้วย ขณะที่ ร้อยละ 22.56 ระบุว่า ควรให้นายกฯ พูดคนเดียวเหมือนเดิม เพราะ ชื่นชอบในบุคลิก และความเป็นตัวตนของนายกฯ มากกว่า หากมีการหมุนเวียนหลายคน ก็จะเกิดหลากหลายความคิด ดูแล้ววุ่นวาย ไม่มีจุดยืนของรายการ ควรตกลงหารือกันให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยให้นายกฯ ออกมาพูดกับประชาชน  ร้อยละ 2.24 ระบุว่า  อื่น ๆ ได้แก่ ควรยกเลิกรายการไปเลย ลดระยะเวลาการออกอากาศให้สั้นลง ออกอากาศเฉพาะบางช่อง แล้วให้ประชาชนเป็นคนเลือกดูเอง  และร้อยละ 11.28 ไม่ระบุ/เฉย ๆ