ผลการสำรวจโพลประจำสัปดาห์
-
1
-
2
-
3
-
4
-
5
ที่มา ส.ว. ตามร่างรัฐธรรมนูญ 2558
วันที่อัพเดทล่าสุด : 26.03.2566
![](https://nidapoll.nida.ac.th/data/survey/uploads/FILE-1605595923305.png)
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “ที่มา ส.ว. ตามร่างรัฐธรรมนูญ 2558” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 20 – 21 พฤษภาคม 2558 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ทั่วประเทศ กระจายทั่วทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,252 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับที่มา ส.ว. ตามร่างรัฐธรรมนูญ 2558 อาศัยการสุ่มตัวอย่างจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” ด้วยความน่าจะเป็นด้วยวิธีแบบเป็นระบบ (Systematic Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ ร้อยละ 95.0 และมีค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน (Standard Error: S.E.) ไม่เกิน 1.4
จากการสำรวจ เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อร่างรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้มี ส.ว. มาจากการเลือกกันเองของอดีตปลัดกระทรวง และอดีตข้าราชการ ฝ่ายทหารที่เคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือผู้บัญชาการ เหล่าทัพ ประเภทละไม่เกินสิบคน (มาตรา 121 (1)) พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 53.35 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะควรมาจากการเลือกของประชาชน ขณะที่ร้อยละ 43.77 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะเชื่อว่าบุคคลเหล่านั้น เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถมากด้วยประสบการณ์อยู่แล้ว และร้อยละ 2.88 ไม่ระบุ ไม่แน่ใจ
ด้านความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อร่างรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้มี ส.ว. ที่มาจากผู้แทนสภาวิชาชีพ องค์กรวิชาชีพ หรืออาชีพที่มีกฎหมายจัดตั้ง ซึ่งเลือกกันเอง จำนวนไม่เกินสิบห้าคน (มาตรา 121 (2)) พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 53.99 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มากด้วยประสบการณ์อยู่แล้ว ขณะที่ร้อยละ 42.97 ไม่เห็นด้วย เพราะอาจมีการเล่นพรรคเล่นพวกกันเกิดขึ้น และร้อยละ 3.04 ไม่ระบุ ไม่แน่ใจ
สำหรับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อร่างรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้มี ส.ว. ที่มาจากผู้แทนองค์กรด้านเกษตรกรรม ด้านแรงงาน ด้านวิชาการ ด้านชุมชน และด้านท้องถิ่น ซึ่งเลือกกันเอง จำนวนไม่เกินสามสิบคน (มาตรา 121 (3)) พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 61.34 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับประชาชนระดับล่าง สามารถรับรู้ปัญหา และเข้าถึงประชาชนได้ดี น่าจะสามารถช่วยพัฒนาประเทศได้ รองลงมา ร้อยละ 36.50 ไม่เห็นด้วย เพราะควรเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการเลือกด้วย และร้อยละ 2.16 ไม่ระบุ ไม่แน่ใจ
ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อร่างรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้มี ส.ว. ที่มาจากการสรรหาจากผู้ทรงคุณวุฒิและคุณธรรมด้านต่าง ๆ (เช่น ด้านการเมือง เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์และสังคม เป็นต้น) จำนวนห้าสิบแปดคน (มาตรา 121 (4)) พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 58.07 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะ เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ น่าจะสามารถช่วยพัฒนาประเทศได้ ขณะที่ร้อยละ 38.18 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะจำนวน ส.ว. กลุ่มนี้มีมากเกินไป และควรเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการเลือกด้วย และร้อยละ 3.75 ไม่ระบุ ไม่แน่ใจ
ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อร่างรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้มี ส.ว. มาจากการเลือกตั้งจังหวัดละหนึ่งคน โดยเป็นการเลือกจากรายชื่อที่ได้รับการคัดกรองมาแล้วจากคณะกรรมการกลั่นกรอง (มาตรา 121 (5)) พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 82.03 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะ เป็นการเลือกโดยตรงจากประชาชน (แม้ว่าจะต้องเลือกจากรายชื่อที่ได้รับการคัดกรองมาแล้ว) ถือว่ามีความโปร่งใสมากกว่าการเลือกกันเอง รองลงมา ร้อยละ 16.69 ไม่เห็นด้วย เพราะ อาจเกิดการซื้อสิทธิขายเสียงและอาจเกิดความไม่โปร่งใส และร้อยละ 1.28 ไม่ระบุ ไม่แน่ใจ
ผลการสำรวจโพลประจำสัปดาห์
-
1
-
2
-
3
-
4
-
5